วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำมันมะพร้าวดีต่อสุขภาพอย่างไร


น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันจากพืชชนิดเดียวในโลกที่มีกรดลอริก อยู่ในปริมาณที่สูงมาก ประมาณ 48 – 53 % และกรดลอริกนี้เอง ที่ทำให้น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติพิเศษในการเสริมสุขภาพและความงามของมนุษย์ น้ำมันมะพร้าวยังมีกรดคาปริก (capric acid) ซึ่งแม้ว่าจะมีน้อยกว่ากรดลอริก คือ มีเพียง 6-7 % แต่ก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพของกรดลอริก นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็น ยังมีส่วนประกอบของวิตามินอี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เซลล์เสื่อมก่อนวัยอีกด้วย
ผู้ที่บริโภคน้ำมันมะพร้าวจะมีสุขภาพดี แข็งแรง เพราะได้พลังงานทันทีที่บริโภคน้ำมันมะพร้าว นอกจากนั้น น้ำมันมะพร้าวยังช่วยเพิ่มคุณค่าของอาหารโดยการเพิ่มการดูดวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโน เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก จึงถูกย่อยง่าย และเคลื่อนที่เร็วไปตามของเหลวในร่างกาย จึงเป็นที่นิยมใช้หุงต้มอาหารสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาการย่อยไขมัน และยังใช้ในสูตรน้ำนม เพื่อให้ไขมันที่จำเป็นแก่เด็กทารก และช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนากระดูก
น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อ และสามารถถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายได้ดี และรวดเร็ว ตำราอายุรเวทของอินเดียจึงได้ใช้น้ำมันมะพร้าวรักษาโรคมาไม่ต่ำกว่า 4,000 ปี ตำราแพทย์แผนไทยในปัจจุบันก็แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวรักษาโรคกระดูกที่ เกิดจากอุบัติเหตุ รักษา เม็ดผดผื่นคัน ลบริ้วรอย แผลฟกช้ำ ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ และป้องกันแสงแดด และความร้อน แม้กระทั่งแพทย์แผนปัจจุบันชาวตะวันตก ก็ให้คนไข้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารหรือการดูดซึมอาหาร เด็กทารกรวมทั้งเด็กเล็กที่ไม่สามารถย่อยไขมัน กินน้ำมันมะพร้าวเป็นยารักษาโรค
น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่ถูกดูดซึมเข้าทางผิวหนังได้ดี เพราะมีขนาดของโมเลกุลเล็กจึงนิยมใช้นวดตัวให้หายปวดเมื่อย และผ่อนคลายความเครียด อีกทั้งยังปกป้องการทำลายของแสงอัลตราไวโอเลตที่ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นแก่ ก่อนวัย และเป็นมะเร็งผิวหนัง ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของกระดูกให้แข็งแรง แพทย์แผนไทยจึงนิยมนำน้ำมันมะพร้าว มาประกอบเป็นสูตรยาแผนโบราณในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับกระดูก อันเนื่องมาจากการประสบอุบัติเหตุ
นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังช่วยให้ผิิวพรรณนุ่มเนียน ดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยให้เส้นผมเงางาม เพราะมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมการเจริญของเส้มผมอีกด้วย
Ref: สถาบันการแพทย์แผนไทย

วิธีการบริโภคน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

สามารถใช้รับประทานได้ วันละ 1-3 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนหรือหลังอาหาร (เด็ก 1 ช้อนชา) มีกรดไขมันอิ่มตัวที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ รับประทานเป็นประจำทุกวันทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี สามารถใช้ผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่รับประทานเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์แก่ร่างกาย

หากต้องการขับของเสีย เพื่อดีท็อกซ์ หรือลดน้ำหนัก ควรทานก่อนอาหารเช้า 30 นาที หลังจากนั้นจะรู้สึกอยากถ่าย หากทานแล้วไม่รู้สึกระบายท้องให้เพิ่มปริมาณ แต่ไม่ควรเกิน ครั้งละ 3 ช้อนโต๊ะ ต่อครั้ง (แล้วแต่ธาตุหนักหรือเบาของร่างกายค่ะ)

เทคนิคในการรับประทานที่ง่ายขึ้น คือ

- ผสมลงไปในอาหารที่รับประทาน เช่น คลุกข้าวตอนหุงข้าว ใส่ในแกงจืด

- ผสมลงในเครื่องดื่มอุ่น ๆ ชา กาแฟ โอวัลติน น้ำแข็งใส ขนมหวานต่าง ๆ

- รับประทานเพียว ๆ แล้วตามด้วยน้ำผลไม้ นมเปรี้ยว เพื่อลดกลิ่นของมะพร้าว (สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นของมะพร้าว)

*น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin Coconut Oil) จะแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส และจะกลับสู่น้ำใส ๆ สภาพเดิมเมื่อตั้งอยู่ในอุณหภูมิปกติ (หากต้องการรับประทานสามารถทำให้ละลายโดยใช้ไดร์เป่าผม เป่ารอบขวด เท่าที่ต้องใช้เท่านั้นก็พอค่ะ)

ควรเก็บรักษาให้พ้นจากแสงแดด และความร้อน เพื่อให้คุณสมบัติของน้ำมันอยู่ได้นานคะ